ข่าวสาร | NEWS อัพเดตทุกความเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ ข่าวสารไอที ข่าวสารด้านไอทีจากทุกมุมโลก ที่สดใหม่จากพวกเรา ไปยังหน้าเว็บ ข่าวสาร GEZA Thailand ข่าวสารต่างๆที่เกี่ยวกับ GEZA Thailand ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดตเว็บไซต์ กิจกรรมต่างๆ ไปยังหน้าเว็บ

รวมระบบพื้นฐานที่จำเป็น ในโลกไอที ระบบเสริม GET IN TOUCH We'd love to hear from you บริการโดดเด่น Outstanding service บริการ Service COMPUTER PC Set ระบบจัดสเปค คอมพิวเตอร์ประกอบเอง ใช้งาน Speed Test ระบบทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต ใช้งาน Mointor Test ระบบทดสอบ FPS ของจอขอคุณ ใช้งาน CORONAVIRUS UPDATE อัปเดตสถานการณ์ไวรัสโคโรนา อ้างอิงข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค ใช้งาน The Bottlenecker ระบบการตรวจหาการทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ใช้งาน Powersupply Calculator ระบบคำนวนไฟฟ้าคอมพิวเตอร์ ใช้งาน LAPTOP SCREEN ดูจำนวน PIN หน้าจอของโน็ตบุ๊ค ใช้งาน WHOIS ตรวจสอบการจดทะเบียนโดเมนแนม (WHOIS) ใช้งาน Countdown ระบบนับเวลาถอยหลังเข้าปีใหม่ ใช้งาน

Support Center ศูนย์ช่วยเหลือ ปัญหาการใช้งานเว็บ รวมทุกปัญหาของระบบเว็บไซต์ ดำเนินการต่อ ค้างไม่ตอบสนอง เว็บไซต์ค้างไม่ตอบสนอง ดำเนินการต่อ โหลดเว็บล่าช้า การโหลดเข้าเว็บไซต์ช้าผิดปกติ ดำเนินการต่อ ปัญหาอื่นๆ พบปัญหาอื่นๆบนระบบเว็บไซต์ ไปยังหน้าเว็บ แบบสอบถามความพึ่งพอใจ การให้บริการจากทางเรา ดำเนินการต่อ

ว่ากันด้วยเรื่อง การ์ดจอ ของแบรนด์ Intel นั้น เราก็ได้เห็นข่าวลือมานานนับปี และก็มีข้อมูลจริงโผล่ออกมาเป็นระยะ เริ่มตั้งแต่ที่เราได้เห็น Intel จ้างหัวกะทิจากบริษัทคู่แข่งอย่าง AMD และ NVIDIA เข้ามาร่วมทีม หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นพัฒนาการของแบรนด์ Intel ทางด้านชิปประมวลผลกราฟฟิคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่ง Iris Xe ที่เป็นชิป iGPU หรือจะเป็นการ์ดจอแยกเองก็ตาม เมื่อวานนี้ ทาง Intel เองก็ได้เปิดตัวชิปกราฟฟิค สำหรับ Mobile หรือกลุ่ม Notebook ในชื่อ Arc ไปเป็นที่เรียบร้อย และหลังจากนั้นก็มีการโชว์หน้าตาการ์ดจอ Arc สำหรับใช้งานใน Desktop มาด้วยเช่นเดียวกัน โดยวีดีโอดังกล่าวนั้นก็ถูกโพสต์ลงบน YouTube เลย การ์ดจอรุ่นนี้ก็เป็นการ์ดประสิทธิภาพสูงรุ่นแรกของทาง Intel นับตั้งแต่ยุค 1990s ที่จะเอามาตีตลาด Gaming แข่งกับเจ้าตลาดปัจจุบันอย่าง AMD และ NVIDIA .. โดยในคลิปเราก็ได้เห็นหน้าตาตัวการ์ดที่เฟี้ยวไม่เบา พร้อมคำที่เขียนไว้ด้านหลังว่า Intel ARC Limited Edition อย่างไรก็ตาม Intel ไม่ได้บอกข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเลยว่าการ์ดดังกล่าวจะเป็นรุ่นไหน อาจจะเป็นรุ่นท๊อป รุ่นกลาง หรือ รุ่นล่างก็ได้ทั้งนั้น แต่จากหน้าตาแล้วมันจะออกไปในโทนที่ค่อนข้างเรียบร้อย ไม่ฉูดฉาดเอาใจ Gaming ที่ชอบดีไซน์ "เยอะๆ" ซักเท่าไหร่ แต่จะตอบสนองคนชอบอะไรที่ดู "Minimal" มากกว่า โครงสร้างภายในบนตัว PCB ก็จัดว่าดูดีใช้ได้เลยครับ มีตัว Memory IC ถึง 8 ตัว และระบบระบายความร้อนคุณภาพสูงพร้อม Heatpipe 4 เส้น .. พอร์ตการเชื่อมต่อ ประกอบไปด้วย DisplayPort 3 ช่อง และ HDMI อีกหนึ่งช่อง ส่วนตัว Power Connector หรือที่ต่อพลังงานเข้าการ์ดนั้น เราก็ไม่เห็นมันในวีดีโอแค่อย่างใด อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเขาลืมทำ Render มาหรือเปล่า เพราะจากความเป็นจริงแล้ว การ์ดจอประสิทธิภาพสูงคงจะต้องมีการต่อพลังงานเพิ่มเติม ไม่น่าจะรับไฟเลี้ยงจากช่อง PCIe พออย่างแน่นอน คลิปของ Intel ก็จบด้วยข้อความให้เราเห็นว่า การ์ดจอรุ่นใหม่นี้จะมาในช่วงฤดูร้อนของปี 2022 และไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมแต่อย่างใดครับ .. แต่ถ้าจะให้ผมวิเคราะห์นะ ผมคิดว่าช่วงแรก Intel คงจะทำการ์ดจอขายเอง ไม่ได้จับมือกับ AIB Partner ทำเป็นการ์ดแบรนด์อื่นๆ ด้วยความที่มันเขียนว่า Limited Edition ก็น่าจะแปลว่า การ์ดจอชุดนี้ คงมีจำนวนจำกัดพอสมควร จึงอาจจะไม่มีตัว GPU Configuration เพียงพอที่ส่งไปให้แบรนด์อื่นทำขาย .. ส่วนสาเหตุที่เป็น Limited Edition นั้น ไม่แน่ใจว่าเหตุผลคืออะไร อาจจะผลิตออกมาได้ไม่เยอะ จึงทำให้คำศัพท์มันดูอลังเฉยๆก็ได้ใครจะรู้

แน่นอนว่าประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในโลกช่วงนี้ก็คงหนีไม่พ้น กรณีสงครามที่เกิดขึ้นในประเทศ Ukraine ที่ Russia นั้นเพิ่งตัดสินใจบุกเข้าพยายามยึดหลายพื้นที่ ทำให้เป็นประเด็นในการวิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยที่เสียงนั้นก็แตกออกเป็นสองฝ่ายครับ ล่าสุดนี้ทางฝ่ายสหรัฐก็มีการตอบโต้ด้วยการ Sanction หลากหลายวิธี และหนึ่งในนั้นก็เป็นการสร้างข้อจำกัดในการทำธุรกิจและส่งของสินค้าไปยังรัสเซีย ซึ่งแน่นอนว่าในนี้ก็มีสินค้าประเภท Semiconductor รวมอยู่ด้วย .. รายงานเมื่อไม่นานมานี้ก็ระบุเพิ่มเติมว่าทั้ง Intel และ AMD ก็มีการหยุดการขายชิปให้กับประเทศรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้อมูลนี้ก็ถูกยืนยันเพิ่มเติมโดย Association of Russian Developers and Electronics Manufacturers (ARPE) และถูกนำเสนอโดยสื่อท้องถิ่นว่าเป็นความจริง .. ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมนั้นก็ไม่ได้มีการระบุอะไรมากมาย ทำให้เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าชิปที่ทั้งทาง Intel และ AMD งดขายให้กับรัสเซียนั้น จะเป็นชิปประเภทไหนบ้าง อาจจะเป็นชิปเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการนำไปใช้ประโยชน์ทางการทหาร หรือ อาจจะรวมไปถึงชิปที่ขายให้กับประชาชนทั่วๆไปด้วย ซึ่งถ้าเป็นกรณีแรก พวกหน่วยประมวลผลตระกูล Core ของทาง Intel และ Ryzen ของ AMD ก็จะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด แต่ถ้าเป็นกรณีที่สองแล้วก็แน่นอนว่า Core กับ Ryzen จะไม่สามารถขายได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ารัสเซียเองก็มีแผนเตรียมการมาหลายปีแล้ว เพื่อป้องกันหากกรณีนี้เกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะหลังจากที่มีกรณี Sanction ระดับนานาชาติตั้งแต่ประเด็นใน Crimea ในช่วงปี 2014 .. แผนการที่ว่าของรัสเซียก็คือ การส่งเสริมให้มีการผลิต Semiconductor ด้วยตัวเอง รวมไปถึงการกักตุนชิปไว้ใช้หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นด้วย บริษัทที่ออกแบบชิปเองของรัสเซีย ก็มีอยู่หลากหลายที่ครับ ยกตัวอย่างเช่น Baikal, MCST, Yadro, และ STC Module .. โดยทั้งหมดนี้ก็มีการจ้างบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) เป็นผู้ผลิตเหมือนกับอีกหลายแบรนด์นั่นแหละ ... และประเด็นตรงนี้ก็มีอยู่ว่า TSMC นั้นเป็นบริษัทสัญชาติไต้หวัน ซึ่งก็แน่นอนว่าโปรฝั่งสหรัฐอย่างเต็มรูปแบบ และก็ได้เข้าร่วมการทำ Sanction ครั้งนี้ด้วย เพราะเช่นนั้นก็หมายความว่าบริษัทผลิตชิปของรัสเซียเองก็จะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้เช่นเดียวกัน แล้วทีนี้ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ Intel และ AMD หล่ะ จะหนักหนาประมาณไหน เพราะรัสเซียเองก็จัดว่าเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีประชากรมาก ? คำตอบก็คือผลกระทบนั้นก็ไม่ได้หนักหนาอะไรครับ รายงานจาก Semiconductor Industry Association ระบุว่าทางรัฐบาลรัสเซียนั้นมีการสั่งชิปเป็นอัตราส่วนแค่ไม่ถึง 0.1% จากการค้าขายชิปทั้งหมดของโลก ในขณะที่ตลาดโดยรวมของประเทศรัสเซียนั้นมีขนาดอยู่ที่ราวๆ 5.3 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ จาก 4.47 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐของตลาด Semiconductor ทั้งหมด และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทางรัสเซียเองก็ไม่ได้หนักหนาอะไรเช่นเดียวกันครับ เนื่องจาก Semiconductor หรือชิปเหล่านี้ก็ไม่ใช่ของจำเป็นที่จะต้องมีตลอดเวลาเหมือนน้ำและอาหาร จะไปเดือดร้อนอีกทีก็ตอนที่อุปกรณ์ทางด้านเทคโนโลยีเกิดความเสียหายหรือต้องการอัปเกรดในอนาคต ตอนนั้นแหละที่รัสเซียเองจะเจอปัญหาจากการ Sanction ครั้งนี้ .. ตอนนี้พูดง่ายๆว่า ใช้ของเดิมไปก่อนแล้วกัน

จะว่าไปแล้ว ครั้งล่าสุดที่คุณสามารถซื้อการ์ดจอได้ใกล้เคียงราคาเปิดตัว หรือที่เราเรียกว่า "ราคาปกติ" นั้นก็จะเป็นช่วงประมาณเกือบๆสองปีที่แล้ว ก่อนที่ COVID-19 จะเข้ามาระบาดทำให้เกิดสภาวะชิปขาดตลาด .. ตอนที่ GeForce RTX3080 เปิตดัวแรกๆ เราก็ได้เริ่มเห็นกันแล้วว่าราคาตัวการ์ดจอนั้น พุ่งสูงกว่าราคาเปิดตัวอยู่พอสมควร ทำให้หลายๆคนอดใจรอเพื่อหวังว่าราคามันจะลงมาใกล้เคียงจุดที่เหมาะสมหรือ MSRP ที่ทาง NVIDIA ตั้งไว้ .. แต่ก็อย่างที่เห็นครับ ใครที่รอไปนี่ก็นั่งกันจนแห้งเลย เพราะปัจจุบันนี้แล้วยังไม่ลงมาใกล้เคียงราคาเปิดตัวเลย นอกจากนั้นยังพุ่งทะยานขึ้นไปหลายเท่าตัวในช่วง Peak จนมีประโยคเด็ดที่ทางผู้บริโภคใช้แขวะร้านค้า IT กันว่า "พรี่รับมาแพง" แต่วันนี้เราก็มีข่าวดีมานำเสนอให้ฟังกันครับ เพราะล่าสุดเราได้ไปเห็นรายงานจากเว็บไซต์ต่างประเทศอย่าง Tom's Hardware ที่ได้มีการสรุปราคาการ์ดจอมาว่า ในช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ มันมีการปรับตัวลงราวๆ 11% ในแบบเดือนต่อเดือน ซึ่งแบบนี้ก็อาจจะเป็นแสงที่ปลายอุโมงค์ของใครหลายๆคนก็ได้นะ ทางเว็บไซต์ก็ได้รวบรวมราคาของการ์ดจอจากเว็บต่างๆในเดือนกุมภาพันธ์และเทียบมันกับเดือนมกราคม ซึ่งข้อมูลหลักๆนี้ก็จะเป็นราคาของการ์ดจอที่ขายใน eBay เพราะเป็นราคาที่เน้นการขายจริง จากผู้บริโภคถึงผู้บริโภคเอง และส่วนใหญ่จะสามารถหาซื้อได้ทั่วโลกด้วย .. สรุปแรกก็คือ ตอนนี้เราได้ผ่านจุดที่ราคาสูงสุดมาแล้ว และกำลังกลับตัวเป็นขาลงอย่างเห็นได้ชัด .. แต่ในข่าวดีก็ยังมีข่าวร้ายอยู่ครับ เพราะว่าถึงแม้ราคาจะเริ่มกลับตัวมาเป็นขาลงแล้ว แต่ถ้าจะให้เทียบกับ MSRP หรือราคาเปิดตัวที่ควรจะเป็นนั้น ก็ยังอีกห่างไกลเลย ซึ่งถ้าใครสนใจอยากดูรายละเอียดราคาเทียบกันของการ์ดจอแต่ละตัว ก็สามารถดูได้ในเว็บไซต์ต้นทางตามลิงค์ >>นี้<< ได้เลยครับ อย่างที่เห็นก็คือ การ์ดจอทุกตัวนั้นมีการปรับราคาลงทั้งหมด ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีมากๆที่จะมายืนยันว่าราคาของตลาดโดยรวมนั้นเป็นขาลงจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ ต่อให้มีการปรับราคาลง เราก็ได้เห็นว่ามันปรับลงจริงๆบางตัว ส่วนบางตัวนั้นอาจจะคงเดิม หรือ อาจจะมีการปรับขึ้นตามช่วง Demand แต่รอบนี้กลับลงทั้งแผง รุ่นที่ปรับลงมากที่สุดที่เห็นก็จะเป็น GeForce GTX1660 Super, RTX3070Ti, GTX1650 Super และ RTX2060 ส่วนการ์ดจอรุ่นประหยัดอย่าง GeForce RTX3050 และ Radeon RX6500XT นั้นก็ไม่ได้เอามารวมในนี้แต่อย่างใด เพราะมันเพิ่งเปิดตัวมาในช่วงเดือนมกราคม และตอนนั้นก็ยังไม่มีของขายที่แพร่หลายมากพอ การ์ดจอส่วนใหญ่ (20 จาก 33 รุ่น) ก็เห็นเปอร์เซนต์การลดราคาเป็นแบบหลักสิบ และมีแค่สองรุ่นเท่านั้นที่ลดลงมาน้อยกว่า 7% ซึ่งก็คือ RX5500XT ทั้งรุ่น 4GB และ 8GB ซึ่งเหตุผลที่มันลงมาน้อยก็น่าจะเป็นเพราะว่าความต้องการทางตลาดของการ์ดสองรุ่นนี้ไม่สูงเท่าไหร่ และราคามันลงมาใกล้จะสุดทางอยู่แล้ว ภาพรวมของตลาดตอนนี้ก็จัดว่าเป็น "จุดเริ่มต้นของข่าวดี" แต่แม้ว่าราคาจะปรับลงทั้งตลาด แต่ถ้ามองเทียบกับราคาเปิดตัวแล้ว มันก็ยังสูงมาก โดยรุ่นที่ดูดีที่สุดนั้นก็ยังคงสูงกว่าราคา MSRP ราวๆ 35% อย่างเช่น Radeon RX6500XT ที่ราคาขายจริงนั้นสูงกว่าราคาเปิดตัวอยู่ 36% .. ตรงนี้ก็อาจจะเป็นเพราะว่าราคาเปิดตัวมันไม่ได้เบาอย่างที่คาดหวังไว้ และอีกอย่างก็คือประสิทธิภาพของมันก็จัดว่าไม่น่าประทับใจซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะในปี 2022 นี้ จึงทำให้เป็นการ์ดจอที่หลายๆคนไม่ได้ให้ความสนใจ ส่วนการ์ดที่ได้รับความสนใจมากที่สุดก็จะเป็นการ์ดรุ่นบนๆ ที่เรากล้าพูดได้ว่ามันเป็นการ์ดที่ "แรง" จริง ซึ่งในนี้ก็จะประกอบไปด้วย GeForce RTX3080, RTX3060, Radeon RX6800XT และ RX6600 .. ในทั้งหมดนี้มีแค่ RX6600 ที่ราคาสมเหตุสมผลที่สุด เพราะว่าราคาขายจริงนั้นสูงกว่า MSRP ราวๆ 40% ในขณะที่ RX6800 นั้นสูงกว่า MSRP ถึง 80% ส่วน RTX3060 และ RTX3080 นี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ เพราะมันขายจริงแพงกว่า MSRP แบบเท่าตัวเลยทีเดียว คำถามสุดท้ายก็คือ .. เห็นราคาลงมาแบบนี้แล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะได้เห็นราคาการ์ดจอกลับไปเป็นราคาที่เหมาะสม หรือ "ตามราคาเปิดตัว MSRP" อันนี้ก็ต้องบอกไว้เลยครับ ว่าไม่มีใครสามารถหยั่งรู้ล่วงหน้าได้ เพราะตอนนี้ การ์ดจอคอมพิวเตอร์เอง ไม่ใช่แค่อุปกรณ์คอมอีกต่อไป แต่มันเป็นสินค้าที่คนเอามาลงทุนเน้นเก็งกำไร ถ้ามีคนตอบได้ คนเหล่านั้นก็คงรวยกันไปแล้วหล่ะครับ .. และอีกอย่างก็คือราคาของเหรียญ Cryptocurrency ที่การ์ดจอถูกนำไปใช้โดยนักลงทุนนั้น ก็มีความผันผวนทีสูง และก็ต้องยอมรับตรงๆว่าตลาด Crypto นี้มีผลกับราคาของการ์ดจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่อง Supply Chain อีกที่เราจะต้องดูกันแบบละเอียดเลยว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน เพราะเช่นนั้น ถ้าคุณถามผมเลยว่า ถ้าจะต้องซื้อการ์ดจอมาใช้ ควรจะซื้อตอนไหน .. ผมก็คงจะตอบว่า ให้คุณลองถามตัวเองดูครับ ถ้าคุณ "จำเป็นต้องซื้อ" อันนี้ ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็ต้องซื้ออยู่ดี แต่ถ้าคุณคิดว่าไม่ได้จำเป็น แค่อยากได้เฉยๆ ก็ต้องลองดูความอยากได้ของคุณแล้วหล่ะครับ ว่าต้านทานไหวหรือเปล่า ถ้ายังรอไหว ก็รอกันต่อไป รอไม่ไหวเมื่อไหร่ก็ค่อยซื้อตอนนั้นครับ