top of page
โพสต์ล่าสุด

IT News - การ์ดจอ ราคาร่วง 11% ตลอดเดือน กุมภาพันธ์



จะว่าไปแล้ว ครั้งล่าสุดที่คุณสามารถซื้อการ์ดจอได้ใกล้เคียงราคาเปิดตัว หรือที่เราเรียกว่า "ราคาปกติ" นั้นก็จะเป็นช่วงประมาณเกือบๆสองปีที่แล้ว ก่อนที่ COVID-19 จะเข้ามาระบาดทำให้เกิดสภาวะชิปขาดตลาด .. ตอนที่ GeForce RTX3080 เปิตดัวแรกๆ เราก็ได้เริ่มเห็นกันแล้วว่าราคาตัวการ์ดจอนั้น พุ่งสูงกว่าราคาเปิดตัวอยู่พอสมควร ทำให้หลายๆคนอดใจรอเพื่อหวังว่าราคามันจะลงมาใกล้เคียงจุดที่เหมาะสมหรือ MSRP ที่ทาง NVIDIA ตั้งไว้ .. แต่ก็อย่างที่เห็นครับ ใครที่รอไปนี่ก็นั่งกันจนแห้งเลย เพราะปัจจุบันนี้แล้วยังไม่ลงมาใกล้เคียงราคาเปิดตัวเลย นอกจากนั้นยังพุ่งทะยานขึ้นไปหลายเท่าตัวในช่วง Peak จนมีประโยคเด็ดที่ทางผู้บริโภคใช้แขวะร้านค้า IT กันว่า "พรี่รับมาแพง"


แต่วันนี้เราก็มีข่าวดีมานำเสนอให้ฟังกันครับ เพราะล่าสุดเราได้ไปเห็นรายงานจากเว็บไซต์ต่างประเทศอย่าง Tom's Hardware ที่ได้มีการสรุปราคาการ์ดจอมาว่า ในช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ มันมีการปรับตัวลงราวๆ 11% ในแบบเดือนต่อเดือน ซึ่งแบบนี้ก็อาจจะเป็นแสงที่ปลายอุโมงค์ของใครหลายๆคนก็ได้นะ


ทางเว็บไซต์ก็ได้รวบรวมราคาของการ์ดจอจากเว็บต่างๆในเดือนกุมภาพันธ์และเทียบมันกับเดือนมกราคม ซึ่งข้อมูลหลักๆนี้ก็จะเป็นราคาของการ์ดจอที่ขายใน eBay เพราะเป็นราคาที่เน้นการขายจริง จากผู้บริโภคถึงผู้บริโภคเอง และส่วนใหญ่จะสามารถหาซื้อได้ทั่วโลกด้วย .. สรุปแรกก็คือ ตอนนี้เราได้ผ่านจุดที่ราคาสูงสุดมาแล้ว และกำลังกลับตัวเป็นขาลงอย่างเห็นได้ชัด .. แต่ในข่าวดีก็ยังมีข่าวร้ายอยู่ครับ เพราะว่าถึงแม้ราคาจะเริ่มกลับตัวมาเป็นขาลงแล้ว แต่ถ้าจะให้เทียบกับ MSRP หรือราคาเปิดตัวที่ควรจะเป็นนั้น ก็ยังอีกห่างไกลเลย



ซึ่งถ้าใครสนใจอยากดูรายละเอียดราคาเทียบกันของการ์ดจอแต่ละตัว ก็สามารถดูได้ในเว็บไซต์ต้นทางตามลิงค์ >>นี้<< ได้เลยครับ


อย่างที่เห็นก็คือ การ์ดจอทุกตัวนั้นมีการปรับราคาลงทั้งหมด ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีมากๆที่จะมายืนยันว่าราคาของตลาดโดยรวมนั้นเป็นขาลงจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ ต่อให้มีการปรับราคาลง เราก็ได้เห็นว่ามันปรับลงจริงๆบางตัว ส่วนบางตัวนั้นอาจจะคงเดิม หรือ อาจจะมีการปรับขึ้นตามช่วง Demand แต่รอบนี้กลับลงทั้งแผง


รุ่นที่ปรับลงมากที่สุดที่เห็นก็จะเป็น GeForce GTX1660 Super, RTX3070Ti, GTX1650 Super และ RTX2060 ส่วนการ์ดจอรุ่นประหยัดอย่าง GeForce RTX3050 และ Radeon RX6500XT นั้นก็ไม่ได้เอามารวมในนี้แต่อย่างใด เพราะมันเพิ่งเปิดตัวมาในช่วงเดือนมกราคม และตอนนั้นก็ยังไม่มีของขายที่แพร่หลายมากพอ


การ์ดจอส่วนใหญ่ (20 จาก 33 รุ่น) ก็เห็นเปอร์เซนต์การลดราคาเป็นแบบหลักสิบ และมีแค่สองรุ่นเท่านั้นที่ลดลงมาน้อยกว่า 7% ซึ่งก็คือ RX5500XT ทั้งรุ่น 4GB และ 8GB ซึ่งเหตุผลที่มันลงมาน้อยก็น่าจะเป็นเพราะว่าความต้องการทางตลาดของการ์ดสองรุ่นนี้ไม่สูงเท่าไหร่ และราคามันลงมาใกล้จะสุดทางอยู่แล้ว



ภาพรวมของตลาดตอนนี้ก็จัดว่าเป็น "จุดเริ่มต้นของข่าวดี" แต่แม้ว่าราคาจะปรับลงทั้งตลาด แต่ถ้ามองเทียบกับราคาเปิดตัวแล้ว มันก็ยังสูงมาก โดยรุ่นที่ดูดีที่สุดนั้นก็ยังคงสูงกว่าราคา MSRP ราวๆ 35% อย่างเช่น Radeon RX6500XT ที่ราคาขายจริงนั้นสูงกว่าราคาเปิดตัวอยู่ 36% .. ตรงนี้ก็อาจจะเป็นเพราะว่าราคาเปิดตัวมันไม่ได้เบาอย่างที่คาดหวังไว้ และอีกอย่างก็คือประสิทธิภาพของมันก็จัดว่าไม่น่าประทับใจซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะในปี 2022 นี้ จึงทำให้เป็นการ์ดจอที่หลายๆคนไม่ได้ให้ความสนใจ


ส่วนการ์ดที่ได้รับความสนใจมากที่สุดก็จะเป็นการ์ดรุ่นบนๆ ที่เรากล้าพูดได้ว่ามันเป็นการ์ดที่ "แรง" จริง ซึ่งในนี้ก็จะประกอบไปด้วย GeForce RTX3080, RTX3060, Radeon RX6800XT และ RX6600 .. ในทั้งหมดนี้มีแค่ RX6600 ที่ราคาสมเหตุสมผลที่สุด เพราะว่าราคาขายจริงนั้นสูงกว่า MSRP ราวๆ 40% ในขณะที่ RX6800 นั้นสูงกว่า MSRP ถึง 80% ส่วน RTX3060 และ RTX3080 นี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ เพราะมันขายจริงแพงกว่า MSRP แบบเท่าตัวเลยทีเดียว


คำถามสุดท้ายก็คือ .. เห็นราคาลงมาแบบนี้แล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะได้เห็นราคาการ์ดจอกลับไปเป็นราคาที่เหมาะสม หรือ "ตามราคาเปิดตัว MSRP" อันนี้ก็ต้องบอกไว้เลยครับ ว่าไม่มีใครสามารถหยั่งรู้ล่วงหน้าได้ เพราะตอนนี้ การ์ดจอคอมพิวเตอร์เอง ไม่ใช่แค่อุปกรณ์คอมอีกต่อไป แต่มันเป็นสินค้าที่คนเอามาลงทุนเน้นเก็งกำไร ถ้ามีคนตอบได้ คนเหล่านั้นก็คงรวยกันไปแล้วหล่ะครับ .. และอีกอย่างก็คือราคาของเหรียญ Cryptocurrency ที่การ์ดจอถูกนำไปใช้โดยนักลงทุนนั้น ก็มีความผันผวนทีสูง และก็ต้องยอมรับตรงๆว่าตลาด Crypto นี้มีผลกับราคาของการ์ดจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่อง Supply Chain อีกที่เราจะต้องดูกันแบบละเอียดเลยว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน



เพราะเช่นนั้น ถ้าคุณถามผมเลยว่า ถ้าจะต้องซื้อการ์ดจอมาใช้ ควรจะซื้อตอนไหน .. ผมก็คงจะตอบว่า ให้คุณลองถามตัวเองดูครับ ถ้าคุณ "จำเป็นต้องซื้อ" อันนี้ ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็ต้องซื้ออยู่ดี แต่ถ้าคุณคิดว่าไม่ได้จำเป็น แค่อยากได้เฉยๆ ก็ต้องลองดูความอยากได้ของคุณแล้วหล่ะครับ ว่าต้านทานไหวหรือเปล่า ถ้ายังรอไหว ก็รอกันต่อไป รอไม่ไหวเมื่อไหร่ก็ค่อยซื้อตอนนั้นครับ

ดู 14 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page